บ้านสไตล์โมเดิร์นสองชั้น
บ้านสไตล์โมเดิร์นสองชั้น สวยๆ พร้อมความทันสมัย
บ้านสไตล์โมเดิร์นสองชั้น เป็นรูปแบบของบ้านอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในการก่อสร้างในปัจจุบัน เนื่องจากวัสดุก่อสร้างในอดีตอย่างไม้ที่หาได้มากมายนั้น กลับเริ่มหาได้ยาก และมีราคาสูงในปัจจุบัน บ้านโมเดิร์นจึงเป็นแบบบ้านที่เน้นการนำเอา วัสดุในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ มาใช้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง านแฝด
โดยเฉพาะในส่วนของ การใช้เหล็กและกระจก เป็นจุดเด่นของบ้าน นอกจากนั้นลักษณะเด่นคือความหรูหรา ในความเรียบง่าย กล่าวคือเรียบง่ายในรูปทรงของบ้านที่เป็นรูปแบบทรง เลขาคณิตไม่ซับซ้อน ส่งผลทำให้การก่อสร้างส่วนโครงสร้างทำได้ไม่ยาก
โดยเฉพาะส่วนหลังคา ที่มัดทำในรูปแบบทรงแหงน ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มากกว่า หลังคาทรงอื่นๆได้มากถึง 40% เนื่องจากโดยมากจะใช้วัสดุหลังคาแผ่นเหล็กหรือ Metal sheet มาใช้จึงมุงได้ง่ายและประหยัดเหล็กโครงสร้างได้อย่างมาก
โดยปกติการออกแบบ ลักษณะภายในของ บ้านสไตล์โมเดิร์น จะเน้นความโปร่งโล่ง ออกแบบเป็นพื้นที่โล่ง ไม่นิยมการก่อผนังกั้น มากเหมือนบ้านรูปทรงอื่น รวมถึงการจัดวาง เฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย และไม่เยอะมากเกินไป ความประหยัดของการสร้าง บ้านแบบโมเดิร์นนอก จากจะประหยัดในส่วนหลังคาแล้ว ยังอาจจะรวมถึง การสร้างผนังแบบปูนเปลือย ที่ไม่จำเป็นต้องทาสี หรือพื้นปนเปลือย
ที่ไม่จำเป็นต้องปูกระเบื้อง ทำให้ประหยัด งบประมาณอย่างมาก หรือแม้กระทั่งส่วนเพดานซึ่งอาจจะ ไม่จำเป็นต้องทำฝ้า เพดานเหมือนบ้านรูปทรงปกติ แต่อาศัยการเดินท่อลอยบน พื้นสำเร็จรูปซึ่งมักพบ เห็นได้ทั่วไป เช่นร้านกาแฟ หรือร้านที่ออกแบบ ในรูปทรงสมัยใหม่ต่างๆ

แบบโมเดิร์นสีเข้ม ๆ จัดสวนแนวตั้งเป็นแกนนำสายตา
คงจะดีไม่น้อยหากมี ที่พักพิงที่ใกล้ชิด กับธรรมชาติและให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนในบ้าน ริมทะเลสาบทุกวัน นั่นคือจุดประสงค์ที่สถาปนิก นำความรู้สึกเหล่านั้นมาสู่การออกแบบบ้าน หลังนี้ที่อยู่ในย่านที่ อยู่อาศัยสุดพิเศษ Kota Baru Parahyangan, Padalarang เกาะชวาใต้
อินโดนีเซียที่ไม่ได้มี ดีแค่ปล่องภูเขาไฟ สถาปนิกจึงพยายาม ดึงทัศนียภาพแวดล้อมให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของบ้านให้มากที่สุด ภายนอกอาคารดูเรียบขรึมด้วยโทนสีเทาเข้ม และปิดเป็นส่วนตัว แต่ภายในเปิดกว้างสาดความสดชื่นเข้ามาในทุกมุม
บ้านโมเดิร์นสีเทาเข้ม PJ House มีพื้นที่ใช้สอย 675 ตารางเมตร ออกแบบโดย Rakta Studio รูปลักษณ์ที่เป็นทรงกล่องหลังคาแบน (flat slab) จากหน้าหน้าดูค่อนข้างปิดด้วยเหตุผล ของความเป็นส่วนตัว ทาสีผนังสีดำและเทาเพื่อให้บ้านดู เรียบง่ายแต่ทันสมัย phuket property
หลังจากสำรวจที่ตั้งแล้ว พบสถาปนิกว่าจุดนี้ล้อม รอบด้วยธรรมชาติและทะเลสาบเป็นจุด แกนนำที่มองเห็นได้ จากด้านหลังบ้าน สถาปนิกจึงออกแบบให้สามารถมอง ทะลุเห็นวิวทะเลสาบ โดยสร้างมุมมอง และบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติผ่านสวน หลังบ้านที่เปิดโล่ง ๆ
นักออกแบบจัดลำดับความ เป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้ และสำหรับแขก โดยเริ่มจากวางตำแหน่งห้องโถง เป็นทางเข้าที่วาง ขนานไปกับสระว่ายน้ำ ที่สะท้อนแสงระยิบระยับ และงานศิลปะที่สวยงาม ก่อนที่จะเข้าถึงพื้นที่ส่วนตัว
ระหว่างพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่นั่งเล่นหลัก มีคอร์ทยาร์ดพร้อมสวนแนวตั้งเป็นจุดแกนนำสายตา ใช้เป็นปราการในการรักษา ความเป็นส่วนตัวสำหรับ private zone พื้นที่ภายใน และภายนอก เชื่อมต่อกันด้วยช่อง เปิดที่สามารถมองเห็นวิวสวน และสระว่ายน้ำได้โดยตรง

สวนแนวตั้งเป็นจุดโฟกัสสายตา
คอร์ทยาร์ดที่อยู่ใจกลางบ้านเป็นองค์ประกอบดึงดูดหลัก ทำหน้าที่ทั้งแยกสัดส่วนการใช้งานและเชื่อมต่อพื้นที่ทั้งแนวตั้งและแนวนอนไปพร้อม ๆ กัน ความโปร่งของคอร์ทซึ่งเป็นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า (Open space) และสวนแนวตั้งเขียว ๆ บนผนัง ลานกรวด หินตกแต่ง สร้างความรู้สึกของความเป็นพื้นที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งที่ยกเข้ามาเก็บไว้ในอาคาร
การใช้วัสดุกระจก เป็นฉากกั้นพื้นที่ภาย ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องรับประทานอาหาร ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ดูกลมกลืน ไปกับพื้นที่ภายนอกเป็นผืนเดียว สร้างความต่อเนื่อง ที่ดีกับพื้นที่โดยรอบ ให้มีทั้งความต่อ
เนื่องทางสายตา (visual connection) และการเข้าถึงได้ (accessibility) และด้วยแนวคิดที่ต้องการบ้าน ที่มีความเป็นธรรมชาติ ความทันสมัย มาเติมเสน่ห์ให้บ้าน นักออกแบบจึงใช้จุด นี้ในการเลือกใช้วัสดุ ที่ให้ความรู้สึกไปในทางเดียวกัน อาทิ ใช้หินตกแต่งให้ลุค nature วัสดุไม้เพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและสบาย ๆ และหินอ่อนที่มีเนื้อ ละเอียดเสกสรรค์ให้ ผนังเรียบๆดูน่าสนใจและสวยงามยิ่งขึ้น บ้านจัดสรร

เปิดบ้านเข้าหามุมมองที่ดีที่สุด
สถาปนิกใช้ผนังกระจก เป็นตัวกลางเชื่อมต่อ ระหว่างชั้นบนและชั้นล่าง จากห้องนั่งเล่นข้างบนสามารถ ปฏิสัมพันธ์ผ่านช่องว่างตรงคอร์ทได้ นอกจากนี้ยังมีชานระเบียงเล็ก ๆ ระหว่างผนังบ้านลอยตัวอยู่ข้างบน ได้รับวิวทะเลในมุมมองที่กว้างและไกล เป็นการออกแบบที่ ใช้ประโยชน์จากวิวได้ในทุกมุม
แม้แต่ในห้องอาบน้ำ ก็ยังไม่พลาดทิวทัศน์ ของสายน้ำผ่านผนังกระจกใส ทำให้ทุกครั้งที่เอนตัว ลงแช่น้ำได้รับความสุนท รีทั้งทางกาย และทางสายตา เติมเต็มความรู้สึกผ่อนคลาย จนแทบไม่อยาก ลุกออกมาจากห้อง
การเลือกวัสดุสร้าง บ้านนอกจากจะคำนึง ถึงสอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศท้องถิ่น อาทิ ความทนร้อน ทนชื้น ทนการกัดกร่อน การระบายอากาศ และยังต้องคำนึงถึงบริบทรอบข้าง แล้วเลือกใช้วัสดุ ที่มีโทนสีหรือให้ความรู้สึกใกล้เคียงกัน เช่น ไม้ แผ่นเหล็กสีสนิม อิฐ คอนกรีต แผ่นหิน
แล้วแต่ภาพรวมของ สิ่งแวดล้อมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้บ้านดูกลมกลืนไม่ขัดแย้ง สำหรับบ้านที่แวดล้อม ด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติ ลองเดินสำรวจรอบ ๆ เพื่อมองหามุมมองที่ดีที่สุด แล้วใส่ช่องเปิดขนาดใหญ่ในจุดนั้น จะเป็นการใช้ประโยชน์จากวิวได้มากที่สุด

10 สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์น
1.สำรวจพื้นที่โดยรอบ
ควรสำรวจพื้นที่ที่จะสร้างบ้าน และบริเวณโดยรอบก่อนจะเริ่มออกแบบบ้าน เพราะพื้นที่จะส่งผลต่อรูปร่าง และขนาดบ้านโดยตรง ส่วนการสำรวจบริเวณโดยรอบว่าอยู่ติดกับอะไรหรือพื้นที่จะถูกพัฒนาเป็นอะไรได้บ้างในอนาคต การสำรวจจะช่วยเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ในอนาคต และออกแบบได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
2.สร้างให้เข้ากับสภาพอากาศ
สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยในการสร้างบ้านทรงโมเดิร์น คือ การออกแบบให้เข้ากับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย เนื่องจากบ้านสไตล์นี้มีจุดเริ่มต้นจากประเทศฝั่งตะวันตกที่มีอากาศหนาวจึงต้องออกแบบบ้านเพื่อป้องกันความหนาว ดังนั้นจึงต้องปรับรูปแบบบ้านให้เข้ากับอากาศด้วย เช่น ออกแบบให้เพดานสูงขึ้น ติดตั้งช่องลมให้อากาศถ่ายเทให้ดี หรือเลือกใช้สีทาบ้านที่สะท้อนความร้อนเพื่อลดการสะสมความร้อนในบ้าน
3ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
ถึงแม้ว่าบ้านสวย ๆ จะเป็นบ้านในฝันของใครหลายคน แต่ที่จริงแล้วการสร้างบ้านควรคำนึงถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเป็นหลัก ควรออกแบบบ้านให้เข้ากับลักษณะการใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
4.คำนึงถึงการใช้งานระยะยาว
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการออกแบบบ้านต้องคำนึงถึงการใช้งานของทุกคนในครอบครัว อย่างไรก็ตามอย่าลืมคิดถึงอนาคตด้วย หลาย ๆ คนเลือกที่จะสร้างบ้านให้มีลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็นพื้นสูง-ต่ำ แต่เมื่อมีอายุมากขึ้นลูกเล่นจากการออกแบบเหล่านี้ จะหมดความสวยงาม และเปลี่ยนเป็นข้อเสียต่อร่างกายแทนได้
5.ตำแหน่งหน้าต่างต้องดู
ให้ดีหน้าต่างเป็นส่วนประกอบสำคัญของ บ้านสไตล์โมเดิร์น เพราะการออกแบบบ้านตามรูปทรงเลขาคณิตอาจทำให้บรรยากาศโดยรวมดูอึดอัดได้ ดังนั้นการติดตั้งหน้าต่างรอบ ๆ บ้านเพื่อให้แสงสว่างเข้าถึงได้มากที่สุด จึงช่วยเพิ่มความสบายตาได้เป็นอย่างดี
6.ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว
พื้นที่สีเขียวรอบบ้านเป็นส่วนประกอบสำคัญของบ้านแบบโมเดิร์น เพราะทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ร่มรื่นมากขึ้น ไม่แข็งทื่อจนเกินไป การมองเห็นสวนสวย ๆ ด้านนอกได้อย่างชัดเจนจากทุกบริเวณของบ้าน มีส่วนช่วยทำให้คนในบ้านได้สัมผัสถึงกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมอบความร่มเย็นแก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
7.เลือกโทนสีธรรมชาติ
โทนสีธรรมชาติจะช่วยทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น และมีความรู้สึกผ่อนคลาย สีที่เหมาะสมคือ สีขาว สีน้ำตาลอ่อน หรือสีเทาอ่อน โดยเป็นโทนสีที่เข้าได้กับทุกเฟอร์นิเจอร์แทบทุกสไตล์ นอกจากนี้ควรเลือกใช้แสงไฟโทนอุ่นที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายตา และผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้น
8.ไม่ตกแต่งแบบฟุ่มเฟือย
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า บ้านโมเดิร์นเน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย เน้นการใช้งานมากกว่าการตกแต่งที่ฟุ่มเฟือย ทุกพื้นที่ภายในบ้านสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และควรเลือกใช้วัสดุที่เน้นความเป็นธรรมชาติ เน้นการแสดงพื้นผิวของวัสดุที่ใช้ตกแต่ง เช่น ไม้ เหล็ก คอนกรีต
9.เลือกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย
บ้านแบบโมเดิร์น นั้นเน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย และแฝงไปด้วยความทันสมัย เพราะฉะนั้นควรเลือกแบบเฟอร์นิเจอร์สีคุมโทนตามสไตล์ที่ชื่นชอบ ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบง่าย รวมถึงมีเฉดสีอ่อนที่สบายตา สามารถเข้ากับสีผนังได้เกือบทุกเฉด
10.มีดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ
สุดท้ายคือการแสดงเอกลักษณ์ของแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ด้วยการออกแบบบ้านให้มีลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การเลือกใช้ของแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าของแต่งบ้านชิ้นอื่น เฟอร์นิเจอร์ที่มาพร้อมดีเทลเก๋ ๆ รวมถึงช่องเก็บของที่มีประโยชน์ใช้สอยได้หลายรูปแบบ